One Fast Move วันฟาสต์มูฟ เต็มเรื่อง
ตัวอย่างหนัง One Fast Move วันฟาสต์มูฟ
รีวิวหนัง “One Fast Move” พ่อลูกสานสัมพันธ์ประลองซิ่ง กลิ่นอายวินเทจอับ ๆ
แล้วก็มาถึงคิวของหนังชีวิตที่ผูกติดไว้กับความเร็ว อย่าง “One Fast Move” หนังฟอร์มเล็ก ๆ ที่มาพร้อมกับความดรามาไม่เบา แต่ทว่าราวกับนั่งดูหนังที่พาเราย้อนกลับไปสู่ความรู้สึกเก่า ๆ เมื่อ 20 ปีก่อน กับพล็อตเรื่องและบทที่เชยแสนเชย แม้ว่าจะเป็นสิ่งธรรมดาที่ดูได้เพลินดีตามสูตร และน่าเสียดายที่นี่คือหนังในปี 2024 ที่ไม่ต่างกับการยังไม่พัฒนาไปไหนสักเท่าไหร่
One Fast Move เป็นเรื่องราวของ เวส นีล ชายหนุ่มผู้หลงใหลในความเร็ว ถูกไล่ออกจากกองทัพจากการแข่งรถมอเตอร์ไซค์ เมื่อไม่มีที่ไหนให้ไป และมีเพียงความฝันในการเป็นนักแข่งรถมืออาชีพ เขาจึงออกตามหาดีน มิลเลอร์ พ่อที่ห่างเหินกันไปและเคยเป็นแชมป์แข่งมอเตอร์ไซค์ให้มาเป็นโค้ชของเขา เวสได้งานในร้านขายมอเตอร์ไซค์ของอาเบล ที่ปรึกษาเก่าของดีน และได้พบกับพนักงานเสิร์ฟที่เขาหลงรัก
ขณะที่เขาเริ่มฝึกกับพ่อ บาดแผลใหม่ก็ถูกสร้างขึ้นบนรอยแผลเป็นเก่า เมื่อดีนกดดันลูกชายให้ได้ในสิ่งที่ดีที่สุดและทำให้ความสัมพันธ์อื่นๆ ในชีวิตของเวสตึงเครียด ถึงเวลาที่เวสจะต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง ว่าเขาต้องการอะไรสำหรับอนาคตของเขา และอะไรคือสิ่งที่คุ้มค่าที่จะเสียไปเพื่อคว้ารางวัลใหญ่ในสนามแข่ง
นี่ผลงานของนักสร้างหนังหนุ่มหน้าใหม่ไฟแรง “เคลลี บลาทซ์” ที่หนังเรื่องน่าจะเป็นหนังเชิงพาณิชย์เรื่องแรกของเขา โดยเขารับหน้าที่ทั้งกำกับและเขียนบทด้วยตัวเอง ก็สัมผัสได้ว่าเขาค่อนข้างถนัดในงานสร้างความดรามาในแง่ความสัมพันธ์ มันเป็นสิ่งที่เขาสามารถถ่ายทอดออกมาได้่ค่อนข้างดีใช้ได้ เพียงแต่ว่าอาจจะยังไม่ได้เป็นสิ่งที่ดีเพียงพอ ท่ามกลางการแข่งขันในวงการหนังที่ดุเดือดขนาดนี้
One Fast Move มาพร้อมกับพล็อตเรื่องที่เหมือนกับหนังเมื่อสัก 20 ปีที่แล้ว หนังดรามาแข่งซิ่งของคนเหลวแหลกสไตล์เดิม ๆ ที่มาพร้อมกับสูตรสำเร็จเก่า ๆ ที่แทบจะไม่แตกแถวไปจากอะไรเดิม ๆ ที่เคยวางหมากเอาไว้ เอาจริง ๆ มันก็เป็นพล็อตง่าย ๆ ที่ดูได้เพลินดี เพียงแต่ว่าก็ทำให้หนังเรื่องนี้ไม่มีอะไรที่น่าจดจำ เป็นแค่เพียงหนังที่เปิดดูแล้วผ่านเลยไปอย่างน่าเสียดาย
ขณะที่องค์ประกอบงานสร้างและโปรดักชันดีไซน์ต่าง ๆ ก็ถือว่า One Fast Move ถ่ายทอดออกมาใช้ได้ ทั้งในมุมมองความเป็นดรามาระหว่างตัวละคร หรือฉากประลองความเร็วในสนาม ก็นับว่าหนังเซ็ตฉากออกมาได้ดี พร้อมกับมุมภาพและมุมกล้องที่ค่อนข้างสวยดี แต่ก็จัดว่าเป็นเซฟโซนที่พึงมีของหนังประเภทนี้ ยังไงมันก็ทำให้เรารู้สึกเหมือนนั่งดูนั่งเก่าอยู่ดี
“เค.เจ. อาปา” นับว่าเป็นดารารุ่นใหม่รุ่นปัจจุบันที่ค่อนข้างทำได้ดีในบทดรามา ต้องยอมรับว่าเขาแบกรับบทนี้เอาไว้ได้อยู่หมัด และเป็นนายแบกประจำเรื่องเลยก็ว่า ถึงแม้ว่าคาแรกเตอร์ของเขาจะถูกดีไซน์ให้ออกมาไม่ได้ซับซ้อนอะไร แต่การแสดงที่ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาอย่างมีชั้นเชิงของเขา ก็สามารถช่วยส่งเสริมให้ตัวละครนี้ดูมีอะไรขึ้นมา ทำได้ดีทั้งในพาร์ทดรามา และยังน่าพอใจในพาร์ทขี่ซิ่ง
เช่นเดียวกับ “เอริค เดน” ที่มาเป็นอีกหนึ่งตัวละครสมทบหลักที่ช่วยเป็นแบ็คอัปให้กับตัวละครนำได้เป็นอย่างดี นี่คือหนังที่ทำให้เขาได้มีจังหวะในการปลดปล่อยทางการแสดงออกมา ถึงบทของเขาจะค่อนข้างเรียบง่ายและเต็มไปด้วยความสำเร็จรูปเยอะไปหน่อยก็ตาม แต่ต้องยอมรับว่านักแสดงชายทั้ง 2 คนในเรื่องนี้ พากันช่วยส่งพลังให้กับหนังเรื่องนี้ไปได้สุดทาง ถึงจะค่อนข้างลุ่ม ๆ ดอน ๆ ไปบ้างก็ตาม
ดังนั้นในภาพรวม One Fast Move ก็ถือว่าเป็นแอคชันดรามาที่มีความเร็วมาเป็นประเด็นท้าทายที่พอดูได้เพลิน ๆ แต่กลับยังไม่ได้สร้างซีนที่น่าจดจำอะไรได้สักเท่าไหร่ การแสดงของนักแสดงนำถือว่าช่วยประคับประคองตัวหนังเอาไว้ได้ประมาณหนึ่ง แต่น่าเสียดายที่พล็อตที่เชยและบทที่ค่อนข้างไม่มีอะไรแปลกใหม่ ก็พลอยทำให้หนังมอบความรู้สึกแบบกำลังนั่งดูหนังเมื่อช่วงต้นยุคปี 2000s อยู่อะไรทำนองนั้นเลย