Fall 2022 พากษ์ไทย เต็มเรื่อง
ตัวอย่างหนัง Fall 2022 พากษ์ไทย
ดูหนัง Fall 2022 พากษ์ไทย เต็มเรื่อง
เรื่องย่อ Fall 2022 เรื่องราวของหญิงสาว 2 คนที่เป็นเพื่อนสนิทกัน ได้แก่ เบ็คกี้ (เกรซ ฟุลตัน) และ ฮันเตอร์ (เวอร์จิเนีย การ์ดเนอร์) โดยตัวของเบ็คกี้มีสามีที่ชื่อว่าแดน ซึ่งแดน เบ็คกี้ และฮันเตอร์ ชอบในกีฬาปีนผาหรือขึ้นที่สูง เปิดเรื่องมาทั้ง 3 ได้ไปปีนหน้าผาด้วยกัน ทว่าดันเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นเมื่อแดนได้ผลัดตกลงไปและเสียชีวิต หลังจากแดนเสียชีวิตไป เบ็คกี้ก็เศร้าอย่างมาก กลายเป็นคนขี้กลัว และไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ จนในวันหนึ่งฮันเตอร์ได้มาหาเบ็คกี้และได้ชวนเธอไปปีนเสาส่งสัญญาณที่สูงที่สุดในอเมริกา เนื่องจากเธอหวังว่าถ้าหากไปปีนที่นี่ได้สำเร็จ เบ็คกี้จะหายกลัวและมีความกล้ามากขึ้น จากนั้นทั้งคู่ก็ได้เดินทางไปยังเสาส่งสัญญาณดังกล่าวและได้ปีนขึ้นไปจนถึงยอดเสา แต่แล้วก็เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น เมื่อจู่ๆ บันไดทางลงได้ถล่มลงไป ทำให้พวกเธอทั้งสองไม่สามารถลงจากเสาได้ ทั้งคู่จึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวรอด
หนังเรื่องนี้พล็อตคือไม่มีอะไรมากมาย หลักๆ ก็คือทั้งคู่ติดบนเสาสูง 2,000 ฟุต (609 เมตร) เปรียบเทียบง่ายๆ ก็คือสูงกว่าตึกใบหยก 2 ประมาณเกือบ 2 เท่า และด้วยความที่พล็อตหลักมีเท่านี้ การที่จะทำให้หนังออกมาดึงดูดและมีความน่าสนใจจึงเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ทว่าหนังเรื่องนี้กลับทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่งเลย ในส่วนของบทส่วนตัวผมมองว่ายังธรรมดาทั่วไป แต่อย่างที่บอกว่าบทไม่ใช่ประเด็นสำคัญมากนัก สิ่งที่สำคัญสำหรับหนังแนวนี้คือการสร้างบรรยากาศ ความลุ้นระทึกเสียมากกว่า ซึ่งเรื่องนี้ทำได้ดีเลยทีเดียว การดำเนินเรื่องก็ทำได้ดี ไม่ได้มีการปูเรื่องราวอะไรมากมาย เรื่องราวทุกอย่างดำเนินไปอย่างรวดเร็วและน่าติดตาม บอกเลยว่าลุ้นจนเหงื่อตกจริงๆ สิ่งที่ชอบคือการเติมแต่งเรื่องราวส่วนตัวของตัวละครเข้ามา เพื่อทำให้เรื่องราวมันมีมิติมากขึ้น นั่นคือเรื่องความสัมพันธ์ลับๆ ของฮันเตอร์และแดน ซึ่งถ้าหากได้ดูจะรู้เลยว่ามันเดาได้ง่ายมากๆ ว่าสองคนนี้แอบคบกันแน่ๆ แต่ถ้าหากไม่มีประเด็นนี้เข้ามามันก็จะไม่มีประเด็นอะไรนอกจากการเอาชีวิตรอด โดยการปูเรื่องราวให้ตัวละครหลักมีปมกันนั้นเป็นเหมือนสิ่งที่หนังแนวนี้มีเสมอ มันเป็นเหมือนสูตรสำเร็จที่เริ่มเรื่องด้วยตัวละครมีความลับในใจต่อกัน จนได้ไปเจอกับสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน จนทำให้ต้องเปิดใจและเชื่อมสัมพันธ์กัน รวมถึงปมในใจของเบ็คกี้กับพ่อที่ไม่ค่อยลงรอยกันในทีแรก แต่พอรอดมาได้ก็เปิดใจกันมากขึ้น ส่วนนี้ก็เป็นมุขเดิมๆ ของหนังแนวนี้เช่นกัน และถึงแม้ว่ามันจะซ้ำซากแต่มันก็ไม่ได้แปลว่าแย่ เพราะทุกอย่างอยู่ที่การนำเสนอเสียมากกว่า สำหรับเรื่องนี้ประเด็นดราม่าส่วนตัวผมมองว่าอยู่ในระดับธรรมดาทั่วไปไม่ได้อิมแพ็คอะไรมากมาย ต่อมาในด้านการแสดง ส่วนตัวผมยังมองว่าธรรมดาทั่วไปเช่นกัน นักแสดงหลักทั้งสองคนแสดงได้ดีตามมาตรฐานทั่วไป แต่บทมันไม่ได้ส่งอะไรมากมายจึงไม่ได้โชว์ทักษะอะไรขนาดนั้น ส่วนด้านงานภาพนี่ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว ถ่ายทอดภาพออกมาดูสมจริงมากๆ มากเสียจนเหงื่อออกมือออกเท้าเต็มไปหมดทั้งที่แค่เป็นคนดู อีกสิ่งที่ดีเช่นกันคือการนำเสนอ และฉากสุดลุ้นที่ทำให้เราอินไปด้วย โดยส่วนตัวผมชอบตอนช่วงต้นเรื่องที่ทั้งสองคนปีนขึ้นไป ช่วงตอนปีนนี่ยอมรับเลยว่าทำได้ดีมากๆ และอย่างที่บอกว่ามุมกล้องโคตรหวาดเสียว คือเขาให้เราเห็นในแบบที่ตัวละครเห็นเลย แถมเทคนิค CGI ในเรื่องก็ทำได้ดีจนผมรู้สึกเหมือนว่านักแสดงกำลังปีนเสาสูงอยู่จริงๆ คนกลัวความสูงนี่อาจทนดูไม่ไหว ส่วนเรื่องวิธีการเอาตัวรอดของทั้งคู่ก็ทำออกมาได้สมเหตุสมผลพอสมควร ไม่ได้ดูเวอร์หรือเกินจริงเลย แถมยังบิ๊วอารมณ์คนดูได้ดีด้วย แบบจะรอดๆ ก็เจออุปสรรคอีกแล้ว แถมยังมีหักมุมเล็กๆ ให้เราได้รู้สึกเหวออีกต่างหาก สรุปเลยคือเป็นหนังที่โคตรลุ้น และหวาดเสียวอีกเรื่องหนึ่ง ใครชอบแนวนี้ห้ามพลาดจริงๆ แม้ว่าจะไม่ได้ดีจนไร้ที่ติแต่ก็มีดีพอให้เราจดจำ