Road House – คนเดือดบวกเมืองเถื่อน เต็มเรื่อง
ตัวอย่างหนัง Road House – คนเดือดบวกเมืองเถื่อน
ในยุคที่ฮอลลีวูดพยายามที่จะกลับมาหากินของเก่า ที่นับว่าเป็นโจทย์อันแสนท้าทาย เพราะบางชิ้นงานก็ทำเอาไว้ดีมาก ๆ และกลายเป็นมาสเตอร์พีชระดับคลาสสิก การนำมาละเลงใหม่ไม่อาจจะเลี่ยงที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ ก็เหมือนกับ “Road House คนเดือดบวกเมืองเถื่อน” หนังบู๊ระห่ำคนเดือดที่เป็นการรีบูตสร้างใหม่จากต้นฉบับหนังเมื่อปลายยุคปี 1980s ที่นับว่าเป็นฉบับปรับปรุงและอัปเดตใหม่
Road House คนเดือดบวกเมืองเถื่อน เป็นเรื่องราวดั่งตำนานของ ดอลตัน อดีตนักสู้บนสังเวียนยูเอฟซีที่น่าเกรงขาม แต่ชีวิตของเขามาถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญระหว่างจะอยู่ต่อหรือตายไปให้พ้น ๆ กระทั่งเขาได้รับข้อเสนอให้มาทำงานที่บาร์แห่งหนึ่งในฟลอริดา ที่ชื่อว่า โร้ด เฮาส์ เขาหวังว่าจะได้พบกับชีวิตดั่งสวรรค์ริมหาด แต่กลับแตกต่างจากที่เขานึกภาพออก เพราะเมืองแห่งนี้มันดิบเถื่อนกว่าที่คิด
สำหรับหนังเวอร์ชันนี้เป็นฝีมือของผู้กำกับหนังบู๊แบบเล่นใหญ่ อย่าง “ดั๊ก ไลแมน” ที่ระยะหลัง ๆ ผลงานของเขาไม่ค่อยจะปังสักเท่าไหร่ ถ้าไม่ใช่หนังเจ๊ง ก็เป็นหนังที่จรลีลงจอสตรีมมิง เช่นเดียวกับ Road House ฉบับปี 2024 ที่ไม่ประหลาดใจที่เขาจะโวยวายว่ามันควรจะเป็นหนังที่ลงโรงฉายทั่วโลกมากกว่า แต่ในความคิดโดยส่วนตัวของผู้เขียนนั้น ฉายแบบจอเล็กก็โอเคดีแล้วเหมือนกัน
แม้ว่าหนังเวอร์ชันใหม่จะเป็นทั้งการรีเมคและรีบูต ด้วยการใช้โครงสร้างเรื่องราวหลัก ๆ แบบต้นฉบับ แต่ได้มีการปรับและประยุกต์สตอรี่ต่าง ๆ ออกมาให้เข้ากับยุคสมัยมากยิ่งขึ้น ถึงภาพโดยรวมนั้นจะเป็นบทหนังค่อนข้างเชยและล้าสมัยอยู่ไม่เบาก็ตาม เพราะว่า Road House ก็ถือว่าเป็นต้นฉบับแรงบันดาลใจของหนังแอคชันสุดระห่ำยุคใหม่ ๆ แทบจะทั้งนั้น โดยได้ 2 นักเขียนหนุ่มที่ยังไม่ค่อยมีชั่วโมงบินมากเท่าไหร่มาช่วยปลุกปั้นบทหนังให้
ในแง่ความบันเทิงนั้น Road House เวอร์ชันก็สามารถจัดเต็มความบันเทิงและความสนุกให้กับคนดูได้เป็นอย่างดี บนพื้นฐานของแพ็คเกจสูตรสำเร็จแบบเก่า ๆ ที่หาความแปลกใหม่อะไรไม่ได้สักเทาไหร่ โครงสร้างในแง่มุมต่าง ๆ ล้วนแต่เป็นเพียงการนำมาของเก่ามารียูสใช้ ที่เชื่อว่าคนดูจะเดาทิศทางอะไรต่าง ๆ ได้ไม่ยากเย็นนัก
ขณะที่ทางด้านองค์ประกอบงานสร้างของหนังเรื่องนี้ ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีตามมาตรฐานของผู้กำกับ ดั๊ก ไลแมน เขานั่นแหละ เขามักจะถนัดการสร้างหนังแบบเล่นใหญ่ไฟกะพริบเอาไว้ก่อน แต่ดีที่เขาถ่ายทอดจุดนี้ออกมาได้ค่อนข้างน่าพอใจ อีกทั้งพวกฉากบู๊และการดีไซน์งานแอคชันต่าง ๆ ก็ทำออกมาได้ชวนบันเทิงได้ในระดับที่ดี
และแน่นอนว่า “เจค จิลเลินฮาน” ก็คือนายแบกนัมเบอร์วันของหนังเรื่องนี้ นึกภาพไม่ออกเลยว่าถ้าหากหนังเรื่องนี้ไม่ได้เขาคนนี้มา Road House 2024 ก็คงจะออกมาดูไม่จืดทีเดียว แต่เจคก็ฉายแสงความเป็นนักแสดงมืออาชีพออกมาได้อย่างเปล่งประกาย แม้ว่าบทหนังจะเละเทะไปหน่อย และเป็นหนังที่เขาไม่น่าจะรับเล่นด้วยซ้ำ แต่เขาก็ทำให้หนังเห่ย ๆ เรื่องนี้ ดูดีและดูสนุกขึ้นได้เป็นกอง
หนังเรื่องนี้ยังเต็มไปด้วยนักแสดงสมทบตัวจี๊ด ๆ ทั้งนั้น แต่น่าเสียดายที่ไม่ใครเทียบรัศมีกล้ามชวนมองของพี่เจคได้เลย จะมีก็แค่เพียง “คอเนอร์ แม็คเกรเกอร์” เป็นตัวขโมยของแทร่ในหนังเรื่องนี้ ที่ไม่ว่าจะออกมาฉากไหนก็เล่นใหญ่ได้สะใจ แน่นอนว่าเขาไม่ใช่นักแสดงในสายเลือด การแสดงของเขายังค่อนข้างชวนผวาอยู่ไม่น้อย แต่ก็เอาคารมและเสน่ห์การเป็นนักสู้อาชีพมาใช้เล่นหนังเรื่องนี้ได้ค่อนข้างลงตัว
ดังนั้นโดยภาพรวมแล้ว Road House ฉบับปี 2024 ก็คือการเอาของเก่ามาประยุกต์และอัปเกรดเป็นของใหม่ ด้วยการใส่รายละเอียดที่เข้ากับยุคใหม่ได้ดียิ่งขึ้น แม้ว่าพื้นฐานของหนังจะยังคงรสชาติเดิมเอาไว้ นับว่าเป็นความพยายามอย่างสูงที่จะหยิบเอาของคลาสสิกมาละเลงใหม่ ที่ไม่อาจจะเลี่ยงการถูกนำไปเปรียบเทียบได้
นับว่าหนังเวอร์ชันนี้ก็ทำออกมาได้ดีในแง่ความบันเทิง มีงานดีไซน์ฉากบู๊ออกมาได้เหมาะเจาะกับอารมณ์ดี นับว่าพวกเขารู้ดีว่าคนดูต้องการอะไร เพียงแต่ว่าหนังไม่มีอะไรใหม่ให้คนดูได้สัมผัสเลย มันกลายเป็นเพียงหนัง(พยายาม)ดิบเถื่อนแบบเดิม ๆ ที่เหมือนจะมีเสน่ห์ แต่ก็คลุ้งออกมาได้ไม่สุด ชก ต่อย ตบ ตี กันแบบสไตล์หนังเมื่อ 30-40 ปีที่แล้ว นับว่าเป็นหนังที่สนุกอยู่ แต่หามีอะไรให้จดจำไม่ค่อยได้